4 แนวทางในการพัฒนาสินค้าและบริการ

ถ้าพูดถึงการพัฒนาสินค้าหรือบริการในลักษณะของการต่อยอดจากของเดิมที่มีอยู่ หรือคิดต่อจากของที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้น เราก็อาจจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 แบบง่าย ๆ ด้วยกันเพื่อช่วยให้คนมีกรอบการคิดเริ่มต้นได้กับสินค้าของตัวเอง ได้แก่

1. การเพิ่ม (Add) บางสิ่งเข้าไปให้กับสินค้าเดิม

กรณีนี้เหมือนกับการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้าไปในสินค้า ทำให้ตัวสินค้านั้นสามารถทำอะไรบางอย่างได้มากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นการสร้างคุณค่าใหม่ไปตอบกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองต้องการจับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายเดิมที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น หรือทำให้สามารถขยายตลาดได้มากขึ้นก็ได้ ตัวอย่างที่เราเห็นได้บ่อย ๆ ก็เช่นการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ เข้าไปในรถยนต์รุ่นใหม่ ทำให้รถมีความน่าสนใจ ตอบโจทย์ลูกค้ายุคปัจจุบัน เป็นต้น

2. การตัด (Subtract) บางอย่างออกไปจากสินค้าเดิม

ในบางครั้งเราก็จะพบว่าฟีเจอร์บางอย่างที่มีในสินค้าเดิมนั้นเกินจำเป็น ก็สามารถเลือกจะเอาออกไปได้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การประหยัดต้นทุนที่มากขึ้น ทำกำไรได้ดีขึ้น หรือสามารถทำให้ไปตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอื่นที่ไม่ได้ต้องการคุณสมบัตินั้น ๆ เช่นการทำ Budget Airline / Budget Hotel เป็นต้น

3. การทำให้บางอย่างมีศักยภาพดีขึ้น (Increase)

บางกรณีเราก็อาจจะไม่มีคุณสมบัติใหม่ ๆ มีอะไรเพิ่มเข้ามา แต่เป็นการทำของเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นกว่าเดิม เช่นการมี CPU ที่เร็วขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นที่ว่านี้เพราะคุณค่าเดิมที่ทำได้นั้นอาจจะไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า หรือบางครั้งก็เป็นการทำเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากรุ่นเดิมหรือของที่มีอยู่ในตลาด

4. การทำให้บางอย่างลดลง (Reduce)

ในทางกลับกัน การพัฒนาบางอย่างก็คือทำให้ประสิทธิภาพของสิ่งที่มีอยู่นั้นลดลง เพื่อทำให้เกิดรุ่นสินค้าที่ต่ำลง ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายอื่นที่อาจจะไม่สามารถยอมใช้ของที่ด้อยกว่าแต่ในราคาที่ประหยัดกว่าได้นั่นเอง

วิธีการทั้ง 4 แบบนี้เป็นหลักการคิดที่ถ้าเรามองสินค้ารอบตัวที่ออกมาอยู่เรื่อย ๆ นั้นก็น่าจะเห็นและเทียบเคียงกันได้ เช่นการออกผลิตภัณฑ์ขนาดที่ใหญ่ขึ้น เล็กลง บรรจุภัณฑ์ที่เปลี่ยนไป มีูลูกเล่นใหม่ ๆ ฯลฯ ซึ่งก็ลองให้เจ้าของธุรกิจลองนำเอาไปทำกันดูนะครับ