5 คำตอบที่คุณควรตอบหัวหน้าแทนการบอกว่า “ผมทำไม่ได้”
หลายๆ ครั้งที่เราได้รับมอบหมายงานอะไรใหม่ๆ นั้น เรามักเจอปัญหาว่างานดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยากจนเป็นไปไม่ได้ เช่นไม่สามารถทำได้ในเวลาดังกล่าว หรือทีมงานไม่มีทรัพยากรที่จะสามารถทำได้ คำพูดแรกๆ ที่เรามักจะพูดกันคือ “เราทำไม่ได้”
แน่นอนว่านั่นอาจจะเป็นความจริงที่เราก็คงอยากจะบอกกับหัวหน้าหรือผู้บริหาร แต่เอาจริงๆ แล้วมันก็มีคำตอบอื่นที่ดีกว่าการบอกว่า “ทำไม่ได้” ที่อาจจะทำให้คุณดูมีภาพลบกับหัวหน้าไป ซึ่งถ้าคุณฉลาดใช้มันแล้วล่ะก็ คุณก็อาจจะพลิกให้มันดูดีขึ้นมาได้ (บ้าง) ซึ่งตรงนี้ Matha C. White เขียนบทความและเทคนิคดีๆ ไว้ใน Time โดยขอเอามาเล่าพอสังเขปดังนี้นะครับ
1. การอธิบายลำดับความสำคัญของงานที่มีอยู่
ในหลายๆ ครั้งที่เรามักเจอกรณีงานด่วนงานเร่ง (เวอร์) นั้น การตอบที่ดีอย่างหนึ่งคือการบอกว่าตอนนี้คุณกำลังให้ความสำคัญกับงานอะไรอยู่ ซึ่งงานนั้นมีความสำคัญอย่างไร โดยการตอบอย่างนี้จะเป็นการเตือนให้หัวหน้าของคุณทราบว่าตอนนี้ลำดับความสำคัญของงานที่อยู่ตรงหน้ามีอะไรบ้าง และให้เขาตัดสินใจหากจำเป็นจะต้องปรับลำดับความสำคัญนั้นใหม่
2. อธิบายถึงความยากในงานนั้นๆ
การอธิบายปัญหาหรือเงื่อนไขที่ “ยาก” ของงานนั้นๆ ให้กับหัวหน้าฟังก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หัวหน้าของคุณเข้าใจเงื่อนไขหรือความคิดของคุณว่าทำไมคุณถึงมองว่าการทำงานดังกล่าวนั้นมีความเสี่ยงหรือเป็นไปไม่ได้ และเป็นการโยนโจทย์กลับไปให้หัวหน้าคุณว่าจะสามารถช่วยเหลือคุณหรือชี้วิธีแก้ปัญหามันได้อย่างไร
3. ขอความช่วยเหลือ
ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าคุณจะทำไม่ได้ เพราะหลายๆ ครั้งมันก็เป็นงานประเภทที่คุณไม่ได้คุ้นเคย ไม่ได้มีความรู้ มันจึงจะดีกว่าถ้าคุณบอกเรื่องนี้กับหัวหน้าเพื่อให้เขาทราบว่าคุณเองจะสามารถทำงานนี้ได้หากได้รับการช่วยเหลือจากอะไร (เพื่อให้เขาไปจัดหามาให้นั่นแหละ)
4. ขอประเมินสถานการณ์ก่อน
การตอบไม่รับงานแต่แรกดูออกจะเป็นการตัดสินใจโดยไม่พิจารณาข้อมูลไปเสียหน่อย บางครั้งคุณอาจจะขอซื้อเวลาได้บ้างโดยบอกว่าขอดูข้อมูล ประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ แล้วจะให้คำตอบอีกครั้ง อย่างน้อยมันก็ทำให้เห็นว่าคุณเปิดรับและใช้เวลาตัดสินใจอยู่ ไม่ใช่ทึกทักปัดงานตรงหน้าทันที
5. ขอ “ลองดู” หน่อยแล้วกัน
คำตอบนี้อาจจะเป็นคำตอบที่นักคิดหลายๆ คนมักบอกถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ เพราะแม้ว่าจริงๆ คุณอาจจะได้พบกับปัญหามากมายตามมาภายหลัง แต่อย่างน้อยการตอบด้วยทัศนคติว่า “ลองดู” จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับคุณพอสมควร ในขณะเดียวกัน ระหว่างทางอาจจะเป็นโอกาสดีๆ ให้กับคุณอยู่ก็ได้ (ซึ่งคนเก่งๆ หลายคนก็ผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาแล้วนั่นแหละ)
Comments