Optimization แบบต่างๆ สำหรับแคมเปญการตลาด
การทำ Optimization นั้นเป็นสิ่งที่คุ้นปากสำหรับคนการตลาดอยู่บ่อยๆ ว่าให้ไป Optmize แคมเปญมาโดยหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
แต่หลายคนก็อาจจะสงสัยว่าการ Optimize ที่ว่านั้นมีแบบไหนบ้าง? แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางร่วมก็คือการทำให้แคมเปญนั้นเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ก็ทำให้คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ลงไป ซึ่งมันก็มีหลายทางด้วยกัน
Journey Optimization
เมื่อการทำแคมเปญมีการวาง Customer Journey เอาไว้นั้น เมื่อรันแคมเปญไปก็อาจจะพบว่าบางจุดของ Customer Journey นั้นหลุด เกิด Drop off หรือคน “ไม่ไปต่อ” ก็อาจจะต้องกลับมารีวิวว่าจุดไหนของ Touchpoint ที่สามารถทำให้เกิดการเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น ลดการ Drop off ไป จุดไหนมีปัญหา ขาดตอน หรือไม่ต่อเนื่องก็แก้ไข เช่นการเพิ่มลิงค์เข้าไปในโพสต์ บทความต่างๆ ให้คลิกต่อไปขั้นตอนต่อไปได้ หรือบางอย่างที่ดูจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าถูกโฆษณามากไปก็ปรับลดลงให้คนรู้สึกโอเคมากขึ้น สร้างโอกาสที่จะเดินไปสู่ขั้นต่อไปของ Customer Journey ได้
Audience Optimization
อันนี้คือพื้นฐานของสายลงโฆษณาที่อาจจะเลือกไม่หว่านหาคนจำนวนมาก แต่ปรับการระบุกลุ่มเป้าหมายให้ดีขึ้น ทั้งในแง่การลดปริมาณกลุ่มเป้าหมายให้เหลือคนที่ตรงกับความต้องการ หรือมีแนวโน้มจะสอดคล้องกับแคมเปญด้วยการระบุให้แม่นยำขึ้น หรือจะใช้การแบ่งกลุ่มเพื่อสร้างความเฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น (แบ่ง Audience Set) ก็ได้
Channel Optimization
เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจจะเห็นว่าบางช่องทางที่เลือกมาใช้ทำแคมเปญนั้นไม่ได้ประสิทธิภาพ หรือมีประสิทธิภาพน้อยเมื่อเทียบกับช่องทางอื่นๆ ก็อาจจะทำให้เกิดการลดและปรับงบประมาณสำหรับแต่ละช่องทาง บางครั้งก็อาจจะเป็นการหยุดการใช้ช่องทางบางช่องทางไปเลยก็ได้ ในขณะเดียวกันนั้น การเพิ่มช่องทางเพื่ออุดรอยรั่วของ Customer Journey ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ทำได้เช่นกันหากมีการรีวิวแล้วพบว่าบางช่วงยัง “ไม่เข้ม” มากพอ
Content Optimization
การปรับคอนเทนต์นั้นเป็นสิ่งที่หลายๆ คนมักจะทำกันเพื่อหวังให้แคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่การทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจขึ้นกว่าเดิม หรือใช้ Insight ของลูกค้ามาทำคอนเทนต์ในตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าหากปรับได้ตรงจุดก็จะมีโอกาสทำให้ตัวโฆษณานั้นทำงานได้ผลมากขึ้นอยู่แล้ว
Media Optimization
ในบางครั้ง ตัวสื่อหรือช่องทางที่นำเสนอคอนเทนต์นั้นก็สามารถปรับเปลี่ยนบางอย่างได้เช่นการเลือก Placement ในช่องทางนั้นๆ หรือการปรับ Objective ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนที่สามารถปรับเปลี่ยนและทดสอบเพื่อดูว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้หรือไม่
ที่ยกตัวอย่างมานี้เป็นหัวข้อใหญ่ๆ ที่มักจะทำกันในเรื่องของ Optimization ซึ่งในความจริงก็จะมีบางจุดที่สามารถปรับเพิ่มได้อีก เช่นระยะเวลาของแคมเปญ หรือบรรดา Action ต่างๆ ที่ใช้ในแคมเปญ ซึ่งก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากการทำงานจริงนั่นเองล่ะครับ
Kommentarer