Time-Based Metric – เมื่อผู้ผลิตคอนเทนต์เริ่มสนใจจะปฏิวัติโฆษณาออนไลน์
เวลาเราพูดเรื่องของการโฆษณาบนโลกออนไลน์นั้น เราก็คงจะคุ้นเคยกับคิดคำนวนด้วยหลัก CPM (Cost per thousand impressions) หรือถ้าอธิบายง่ายๆ คือการคำนวนต้นทุนว่ามีการให้คน “เห็น” โฆษณานั้น 1000 ครั้งจะใช้เงินเท่าไร อย่างไรก็ตาม เมื่อเราอยู่ในยุคที่ Digital Content เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ แถมมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามานั้น ทำให้เริ่มเกิดคำถามว่าหน่วยวัดแบบเดิมๆ นั้นอธิบายประสิทธิภาพของโฆษณาได้ดีแล้วหรือยัง หรือจะมีหน่วยวัดอะไรที่ดีกว่านี้ได้บ้าง
และนั่นทำให้เป็นที่มาของการวัดประสิทธิภาพของการ “ใช้เวลา” ในการที่กลุ่มเป้าหมายจะได้เห็นโฆษณาดังกล่าว ซึ่งมักจะเรียกกันว่า Time-Based Metric
วิธีนี้ถือว่าน่าสนใจและกลายเป็นหน่วยวัดที่สอดรับกับเทรนด์ Content Marketing อยู่พอสมควร เพราะมันไม่ใช่แค่การดูว่าจำนวน Click หรือจำนวนครั้งที่คอนเทนต์นั้นถูกนำไปให้คนเห็น แต่มันคือการดูว่ากลุ่มเป้าหมายใช้เวลาเท่าไรในการเสพคอนเทนต์ต่างๆ และนั่นน่าจะตอบโจทย์มากกับกรณีการทำ Content Marketing ที่เน้นสร้างคอนเทนต์มากกว่าแค่ทำ Banner โฆษณาเฉยๆ
เรื่องของ Time Based Metric นี้นับวันก็จะยิ่งเป็นที่สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างในการสำรวจล่าสุดของ Digital Cotnent Next นั้นก็พบว่าบรรดาผู้ผลิคคอนเทนต์ดังๆ อย่าง CNBC Digital, ESPN, The New York Times ก็ให้ความเห็นว่าจะเริ่มทดสอบการวัดผลโฆษณาด้วยระบบ Time Based ในเร็วๆ นี้
![2014-11-02_13-25-47](https://static.wixstatic.com/media/73e1b1_25c79e61332d4fa2aef3b66c674e82ac~mv2.jpg/v1/fill/w_946,h_404,al_c,q_85,enc_auto/73e1b1_25c79e61332d4fa2aef3b66c674e82ac~mv2.jpg)
ที่วันนี้ขอหยิบเรื่องนี้มาพูดคุยกันเพราะการวัดผลแบบ Time-Based นี้อาจจะทำให้โมเดลการคิดมูลค่าของโฆษณาหรือมูลค่าของสื่อต่างๆ อาจจะพลิกกันเลยก็ว่าได้ เพราะแม้ว่าเว็บไซต์หรือบล็อกจะมียอดคนเข้ามามากแค่ไหน แต่มันก็ใช่ว่าจะการันตี “คุณภาพ” ของการเข้ามาดูคอนเทนต์เช่นเดียวกับคุณภาพของคนที่เข้ามาได้ การวัดผลโดยใช้ตัวแปรเรื่องเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องกลายเป็นการเพิ่มมิติที่แสดงให้เห็นคุณภาพของคอนเทนต์มากขึ้นว่าทำให้คนสนใจและใช้เวลาในการเสพแค่ไหน
สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้คือการวัดผลแบบ Time-Based นี้จะเริ่มใช้กันแพร่หลายเมื่อไร และบรรดาเว็บไซต์หรือสื่อดิจิทัลต่างๆ จะปรับตัวกันทันหรือไม่ ที่แน่ๆ คือถ้าออกมาใช้กันจริงแล้วอาจจะทำให้เว็บไซต์หลายๆ แห่งที่เน้นการปั้ม Traffic เข้ามาเพื่อขายยอด UIP อาจจะต้องทบทวนกลยุทธ์กันเลยก็ได้ นั่นยังรวมไปถึงการวัดผลสำหรับการทำคอนเทนต์ของตัวแบรนด์ในช่องทางต่างๆ ด้วย (คุณอาจจะเริ่มสนใจจำนวนนาทีที่คนดูวีดีโอมากกว่าการดูแค่จำนวนวิวเพียงอย่างเดียวนั่นแหละ)
ก็ถือว่ารู้แล้วเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตแล้วกันนะครับ :)
ข้อมูลประกอบการเขียน: Captial New York
Comments