คุณทำ Digital Marketing แบบ “อยากทำ” หรือแค่ “ฝืนทำ” กับ “จำใจทำ”
เมื่อวันก่อนผมไปบรรยายเรื่อง Digital Marketing สำหรับการท่องเที่ยวให้กับบรรดาสมาคมต่างๆ ในงานที่จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การบรรยายก็ผ่านไปโดยปรกติ แต่มีผู้ฟังท่านหนึ่งพยายามโต้ตอบกับผมตลอดและผู้ฟังท่านนั้นก็เดินมาหาผมหลังจากการบรรยายจบ
ผู้ฟังท่านนั้นบอกว่าปัจจุบันทำโรงแรมอยู่ที่จังหวัดตรัง ตัวเองอายุ 60 กว่าแล้วแต่สิ่งที่ผมพูดไปไม่ว่าจะเป็นการทำเว็บไซต์ ทำ Facebook ทำ LINE@ นั้น เขาทำหมดเลย เขาเริ่มจากไม่รู้อะไรเลย ลองทำไปเรื่อยๆ จนตอนนี้สิ่งที่เขาทำนั้น “เห็นผล” และเป็นประโยชน์กลับมาที่ธุรกิจเขา
สิ่งที่ผมประทับใจคือเขาเล่าอย่างตื่นเต้น สนุก และพยายามแลกเปลี่ยนกับผมอยู่ตลอดที่คุย ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ผมคุยกับเขาคือ “การเป็นดิจิทัลไม่ได้เกี่ยวกับอายุหรอกครับ”
ที่ผมบอกไปเช่นนั้นเพราะผมเชื่อว่าหลายๆ คนมักตั้งอคติว่า Digital Marketing เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ เป็นความรู้ที่เฉพาะคนอายุน้อยๆ จะเข้าใจและทำเป็น ในขณะที่คนอายุมากนั้นไม่น่าจะเรียนรู้ได้ ยากที่จะทำ
แม้ว่าภาพส่วนใหญ่ของตลาดจะเป็นแบบนั้น แต่จริงๆ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกครับ
สำหรับผมการทำ Digital Marketing เป็นเรื่องของ Mindset พอสมควรก่อนที่จะมาเรื่องเทคนิคและความคุ้นเคย แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ที่เล่น Facebook จับคอมพิวเตอร์มานานก็ย่อมได้เปรียบกว่าเพราะคล่อง เข้าใจวิถีพื้นฐานของมัน ส่วนคนรุ่นเก่าอาจจะช้าและไม่คุ้นเคยจนบางคนรู้สึกว่ามันเป็นปัญหามากกว่าโอกาส
แต่เอาจริงๆ ประสบการณ์ของผมก็บอกว่ามันสำคัญอยู่ที่การเปิดใจและยอมรับ ผมเห็นคนอายุมากหลายคนเข้ามาทำดิจิทัลแบบงูๆ ปลาๆ ในตอนแรก แต่ด้วยความตั้งใจ อยากทำ ยอมอดทนเรียนรู้มันก็ทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าได้รวดเร็ว แถมเผลอๆ อาจจะคุยรู้เรื่องมากกว่าหนุ่มสาวที่วันๆ เอา Facebook กับ Instagram ไว้คุยกับเพื่อนๆ เฉยๆ ด้วยซ้ำ
ในทางกลับกัน คนยุคใหม่เองจำนวนมากก็ไม่ได้เปิดใจรับ Digital Marketing เท่าไรนัก เพราะมันกลายเป็น “งานใหม่” สำหรับพวกเขาซึ่งหลายคนก็ไม่อยากจะเรียนรู้อะไรใหม่แล้ว มันจึงไม่แปลกที่ฝ่ายการตลาดของหลายๆ บริษัทที่แม้จะมีคนรุ่นใหม่ก็ยังทำ Digital Marketing ไม่ได้ผลนัก ก็เพราะคนทำงานเองก็ไม่ได้เปิดใจยอมรับมัน บางคนก็ต้องทำในสภาวะ “จำใจทำ” หรือ “ฝืนทำ” เนื่องจากกระแสมันมาและไม่อาจจะปฏิเสธได้
เรื่องนี้ส่งผลในการทำงานจริงอยู่พอสมควร เพราะต่อให้ทักษะและความสามารถอาจจะไม่เยอะ แต่การมี “แรงใจ” มากก็จะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้เร็ว เกิดความพยายามที่จะลองผิดลองถูก กล้าทดลองอะไรใหม่ๆ และทำให้พวกเขาได้ประสบการณ์ดีๆ ไปมากมาย
ผมมักมีบทสนทนากับผู้รู้หลายๆ ท่านว่าสิ่งสำคัญคือ “ความเชื่อ” ที่เจ้าของธุรกิจและนักการตลาดต้องมีในวันนี้ ว่าโลกเราเปลี่ยนไปแล้ว และโอกาสมากมายกำลังเกิดขึ้นกับสิ่งที่เรายังไม่รู้ ฉะนั้นเราต้องรีบวิ่งเพื่อความโอกาสนี้ให้ทัน ส่วนจะทำอะไรผิดถูกนั้น เดี๋ยวมาว่ากันอีกที
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องน่าเสียดายเหมือนกันที่หลายๆ ธุรกิจ หลายๆ คน ไม่ได้ “เชื่อ” อย่างนั้น และมองว่าการทำ Digital Marketing เป็นเหมือน “ของต้องทำ” เพราะกระแสมา และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าที่ทำนั้นไม่ได้ทำเต็มที่ ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำอย่างจริงจัง ทำแค่เพราะคนอื่นทำ หรือถูกสั่งให้ทำ
ผมหยิบเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังในบล็อกนี้ ก็อยากให้ลองคิดดูกันนะครับว่าเราจะเปิดรับกับการเปลี่ยนแปลงนี้แค่ไหน เพราะคนที่กล้าและพร้อมจะวิ่งไปกับมันก็ย่อมวิ่งไปไกลกว่าคนอื่นนั่นแหละครับ
Commenti