ถอดรหัส Real-Time Content ที่น่าคิดจากปรากฏการณ์ ‘เหนียวไก่’

ผมเชื่อว่าปรากฏการณ์เหนียวไก่ที่ดังชั่วข้ามคืนอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกมากกับสังคมไทยที่ทำให้อะไรหลายๆ อย่างเป็นกระแสอย่างรวดเร็วเหมือนกรณีครูอังคนานั่นแหละครับ แต่ที่น่าสนใจคือครั้งนี้เป็นครั้งแรกๆ ที่เราเห็นแบรนด์หรือเพจต่างๆ พยายามทำ Real-Time Content เข้ามาช่วงชิงกระแสที่กำลังขึ้น

อย่างไรก็ตาม มันก็ใช่ว่าการทำ Real-Time Content นี้จะเวิร์คเสมอไป เพราะผมเชื่อว่าหลายๆ คนดูคอนเทนต์จากบางเพจแล้วรู้สึกว่า “ไม่เข้าท่า” อยู่พอสมควร บล็อกนี้เลยขอแสดงความเห็นประกอบการถอดบทเรียนว่าปัจจัยอะไรบ้าง

ที่ทำให้ Real-Time Content เวิร์ค / ไม่เวิร์ค

1. ต้องเร็วและให้ทันเวลา

การทำ Real-Time Content ถ้าว่าโดยหลักการแล้วคือการทำคอนเทนต์ที่เกาะกระแสโดยสร้างการเชื่อมต่อกับตัวเอง ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญคือกระแสที่ว่าอยู่ในช่วงที่คนกำลังให้ความสนใจ หรือกำลัง “รู้สึกร่วม” เป็นสำคัญ แน่นอนว่าถ้าเข้าในจังหวะนี้ก็ย่อมใช้ประโยชน์จากความรู้สึกร่วมในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายได้

อย่างไรก็ตาม ถ้าการทำคอนเทนต์นั้นช้าหรืออยู่ในจุดที่คุณเริ่มคลายจากการรู้สึกร่วมแล้ว มันก็จะหมดเสน่ห์ของการเป็น Real-Time Content ไปอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นเรื่อง “เชย” แทน

2. การหาจุดร่วมกับตัวเองอย่างสร้างสรรค์

โจทย์สำคัญของคนทำคอนเทนต์สำหรับแบรนด์คือการหาประเด็นที่ตัวเองสามารถเข้าไปอยู่ในคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสได้ และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนกันเพราะไม่ใช่ทุกแบรนด์หรือทุกสินค้าจะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ ได้

ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ต้องพึงคิดอยู่คือตัวแบรนด์จะเอาองค์ประกอบไหนของตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์นั้น สินค้า? คาแรคเตอร์? หรือแม้กระทั่งจะเข้าไปในบทบาทไหน จะเป็นคนวิจารณ์? เป็นตัวละคร? ตรงนี้ทีมงานทำคอนเทนต์ต้องมีคำตอบที่ “เข้าท่า” รวมทั้งมองเห็นว่ามันเพียงพอจะกระตุกความสนใจจากคนเห็นคอนเทนต์ได้

และที่สำคัญคืออย่าฝืนถ้าแบรนด์ของคุณไม่ได้เหมาะกับสถานการณ์นั้นๆ

3. ทำ Real-Time ใช่ว่าจะเวิร์คเสมอไป

แน่นอนว่าการทำ Real-Time Content เป็นเทรนด์ของ Content Marketing ในปัจจุบันอยู่แล้ว แต่อย่างที่เกริ่นๆ ไปก่อนหน้านี้ว่าการทำ Real-Time ก็ใช่ว่าจะสร้างผลลัพธ์ที่ดูดีแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เล่นกับอารมณ์และความรู้สึกของคนอยู่เหมือนกัน มันจำเป็นที่คนทำงานต้องวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีๆ ว่าตอนนี้คนมองเรื่องหรือประเด็นนี้ด้วยมุมมองไหน สนุก จำเจ หรือหมั่นไส้? และถ้าคุณลงไปในจังหวะที่ผิดมันก็มีแต่ทำให้คนมองว่าคุณแค่พยายามจะโหนกระแสอย่างไม่เข้าท่านั่นเอง

3 เรื่องดังกล่าวเป็นข้อคิดเร็วๆ ที่ผมมองดูคอนเทนต์ของแบรนด์ต่างๆ บนโลกออนไลน์กับคลิปเหนียวไก่ที่โด่งดังเนี่ยแหละ ท้ายที่สุดเราอาจจะมองแล้วตั้งคำถามว่าทำไมบางแบรนด์ดูเป็นการโหนกระแสแบบน่าเกลียด ในขณะที่บางอันดูสร้างสรรค์และน่าชื่นชม จุดนี้คงเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับคนทำคอนเทนต์เลยก็ว่าได้ล่ะครับ