“ถามลูกค้า อย่าถามผม ผมไม่ใช่ลูกค้า” คำตอบที่เหมือนกวนแต่ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ
ช่วงที่ผมไปบรรยายตามงานต่างๆ นั้น ผมมักจะมีคนเดินเข้ามาถามตอนหลังบ่อยๆ ในลักษณะว่า “แล้วทำแบบนี้เวิร์คไหม?” “จะมัดใจลูกค้ากลุ่มนี้ต้องทำอย่างไร” “ทำไอ้อย่างนั้นดีหรือไม่ดี” ฯลฯ
และแทบทุกครั้งผมก็ตอบไปว่า “ไปถามลูกค้าครับ ผมตอบให้ไม่ได้”
หลายๆ คนอาจจะมองว่าผมเล่นตัว หรือเลี่ยงการตอบ แต่เอาจริงๆ ผมก็มักอธิบายต่อว่าเอาจริงๆ คือ “ผมตอบไม่ได้” เพราะผมไม่ใช่ลูกค้า และคนจะตอบได้ว่าอะไรเวิร์คไม่เวิร์คนั้นคือคนที่มีชื่อว่า “ลูกค้า”
สิ่งหนึ่งที่ผมมักจะเตือนหลายๆ คนเวลาไปบรรยายคืออย่ากระโดดไปที่วิธีการหรือต้องการสูตรสำเร็จแบบเร็วๆ แล้วเราก็ไปคาดหวังจะได้คำตอบนั้นจากคนที่ขึ้นชื่อว่า “กูรู” “โค้ช” หรือวิทยากรต่างๆ ทั้งที่จริงๆ แล้วคนเหล่านั้นอาจจะไม่รู้จักลูกค้าเราเลยก็ได้ วิธีการต่างๆ ที่เขาแนะนำมานั้นก็อาจจะเป็นวิธีการที่อิงจากประสบการณ์ของเขากับลูกค้าของเขา แต่ไม่ใช่กับสินค้า ธุรกิจ และลูกค้าของเรา มันคงยากที่จะใช้วิธี Copy/Paste มากันแบบง่ายๆ
ในอีกมุมหนึ่ง ผมก็มักบอกว่าการจะตอบคำถามพวกนี้ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ถามปุ๊ปจะตอบกันได้ปั้ป แผนกการตลาดต้องใช้คนมากมาย ทำการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จากหลายปัจจัยเพื่อจะให้ได้คำตอบที่ “ใช่ที่สุด” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหา กลยุทธ์ วิธีการ ซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินมาถามคนๆ หนึ่งแล้วคาดหวังว่าเขาจะตอบได้ทันที (และให้เป็นคำตอบที่ถูก)
ผมมักบอกเสมอว่าจะให้ผมตอบ ผมก็ตอบได้ แต่จะถูกหรือไม่ ผมก็คงไม่รับประกันอะไรทั้งสิ้น แล้วเช่นนั้นมันถูกต้องแล้วหรือกับการที่ผมจะแค่โยนคำตอบแบบ “คิดเองเออเอง” ไปให้กับคนที่คาดหวังคำตอบเพื่อเอาไปใช้กับธุรกิจของตัวเอง
ผมมักบอกคนที่ฟังผมบรรยายบ่อยๆ ว่าโจทย์ของผมเวลาไปบรรยายอะไรนั้น ไม่ใช่เรื่องการให้คำตอบแบบ “เบ็ดเสร็จ” และเป็น “สูตร” ให้กับทุกคน และมันคือการชวนให้คนฟังคิด วิเคราะห์ แล้วนำสิ่งนั้นไปใช้งานกับโจทย์ของแต่ละคน ซึ่งมันก็จะต่างกันไปตามบริบทของตัวเอง
อย่าถามหาสูตรสำเร็จเลยครับ เพราะมันยากที่จะมีสูตรซึ่งใช้ได้กับทุกๆ ธุรกิจ และต่อให้มี เขาก็ไม่บอกกันง่ายๆ หรอกครับ (คือถ้าผมคิดได้จริง ผมคงตั้งราคาสูตรนี้ไว้หลักล้านกันล่ะ)
และแทนที่เราจะไปวิ่งหาสูตรโน่นสูตรนี่ จริงๆ แล้วเราควรใช้เวลาให้มากขึ้นกับ “ลูกค้า” ของเรา เพราะนั่นคือคนที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจของเรา
หากไม่ฟังเขา แต่ไปฟังกูรูต่างๆ แทน ผมว่าเราก็คงฟังคนผิดแล้วล่ะครับ
Comments