top of page

บรรษัทภิบาลและการตลาดแบบมีจริยธรรม บน Facebook ในยุคบ้า Like Comment Share

ช่วงสัปดาห์ที่่ผ่านมานั้น เพื่อนๆ และน้องๆ ในออฟิศผมแชร์เคสน่าสนใจหลายเคสของบรรดา Facebook Page ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และใช้คอนเทนต์แปลกๆ ในการเรียกจำนวน ไลค์ คอมเมนต์และแชร์ จนเกิดกลายเป็นดราม่ายกใหญ่เสียวุ่นวาย บางเคสก็ตีหน้าซื่อทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ในขณะที่บางเคสก็เนียนแถปัดความรับผิดชอบไปแบบให้คนตามอ่านอึ้งกันไป

เรื่องของการปั่น Like นั้นคงยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในทุกๆ วัน ตราบใดที่ยังมีการเข้าใจกันประเภทว่าเพจที่ไลค์เยอะๆ แปลว่าเพจเจ๋ง ถ้า Page ของแบรนด์ไหนมีคนกดไลค์จำนวนมาก มีตัวเลข People Talking About This (PTAT) เยอะๆ แสดงว่ามีคนชื่นชมมาก แบรนด์แข็งแรงมาก ฯลฯ ซึ่งชุดความคิดเหล่านี้ทำให้หลายๆ เพจเล่นทั้งเกมบนโต๊ะและใต้โต๊ะเพื่อให้ได้มาซึ่งตัวเลขเพื่อเอาไว้โชว์ว่าเหนือคู่แข่ง แผนกการตลาดเอาไปพรีเซนต์ให้ผู้บริหารเห็นผลงาน ฯลฯ

ช่วงเวลาที่ผมทำงานที่ Digital Agency (ซึ่งก็ยังทำงานอยู่ในปัจจุบัน) ก็ต้องยอมรับว่าเจอความต้องการแบบนี้อยู่บ้าง แต่ทุกครั้งผมกับทีมก็จะพยายามอธิบายและชี้ให้เห็นว่าตัวเลขเหล่านี้ควรจะมาจากอะไร และทำไมเราถึงเลือกจะไม่ใช้วิธีการปั่นตัวเลขขึ้นมาเพียงเพื่อจะเอาชนะคู่แข่งเฉยๆ

แต่ก็นั่นแหละที่หลายๆ แบรนด์อาจจะไม่คิดอย่างนั้น ทุกวันนี้เรามักเจอหลายๆ เพจเอาคอนเทนต์ประเภทมาเรียกไลค์เรียกแชร์ บ้างก็เอามุกตลกหรือคอนเทนต์ที่คนอื่นทำไว้มาแชร์บ้าง (และก็ไม่ให้เครดิตบ้าง) ถ้าหนักๆ เข้าก็อาจจะเล่นคอนเทนต์ที่เข้าข่ายก้าวข้ามเส้นของความเหมาะสมไป ไม่ว่าจะเล่นเรื่องราวที่ส่อต่อการผิดศีลธรรม มีการพาดพิงสิ่งที่ละเอียดอ่อน หรือหนักข้อคือการเอาเรื่องราวของความน่าสงสารหรือความตายมาเพียงเพื่อขอไลค์ไปปั้มตัวเลข


312257_10151620187008291_790061022_n

Screen Shot 2556-06-01 at 11.04.38 PM

สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่านักการตลาดหรือคนที่ดูแลเพจนั้นคิดอย่างไร เช่นเดียวกับตัวบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้า/บริการนั้นๆ ว่าคำนึงถึงเรื่องบรรษัทภิบาล ตลอดไปจนเรื่องศีลธรรม จริยธรรมมากแค่ไหน หรือมองว่าทำอย่างไรก็ได้ไม่สำคัญ ขอให้ได้ผลงาน ได้ตัวเลขมาโชว์สวยๆ ในรายงานเป็นพอ?

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มี Facebook Page มากอันดับต้นๆ ของโลก และเราก็เจอเพจมากมายที่เอาเทคนิคทั้ง ขาว เทา ดำ มาปั้มตัวเลขเพื่อหวังจะใช้ประโยชน์เพื่อการพาณิชย์ในภายหลังอย่างเช่นการโฆษณาต่างๆ สร้างรายได้ให้กับเจ้าของเพจ ซึ่งหลายๆ ทีก็สร้างประเด็นถกเถียงกันพอสมควร แต่ก็พอเข้าใจ (บ้าง) ได้เนื่องจากเพจจำนวนมากเป็นของส่วนบุคคล แต่กับเพจที่ถือว่าเป็นช่องทางการสื่อสารของบริษัทหรือองค์กรที่ทำธุรกิจกับสังคมแล้ว วิธีการแบบแมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูได้เป็นพอนั้นเป็นวิธีการที่ถูกจริงหรือ? เอเยนซี่ที่ดูแลและทำงานให้นั้นเข้าใจเรื่องจรรยาบรรณของการทำธุรกิจมากน้อยแค่ไหนกัน?

ท้ายที่สุดแล้ว การกระหายตัวเลขจนใช้วิธีใต้โต๊ะก็ย่อมไม่สร้างผลดีกับแบรนด์แต่อย่างใด เพราะผู้บริโภคในสมัยนี้รู้เท่าทันมากขึ้นเรื่อย แถมยิ่งแพร่กระจายความผิดพลาดนั้นๆ ออกไปอย่างรวดเร็วชนิดที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะหนักเสียจนไม่คุ้มกับตัวเลขที่ได้มาแต่อย่างใดเลย


Screen Shot 2556-06-01 at 11.05.22 PM

ก็ขอฝากให้บรรดาแบรนด์ต่างๆ ที่คิดจะเอาแต่ตัวเลขอย่างเดียวไปคิดกันดูดีๆ แล้วกันนะครับ

Comments


Me_Potrait.jpg

Nuttaputch Wongreanthong

An experienced marketer with a passion for understanding and exploring the latest trends

  • Facebook
  • Twitter
  • LinkedIn
  • Instagram

Subscribe

Thanks for submitting!

bottom of page