ปัญหาแรงงาน Digital Marketing จะน่ากลัวมากกว่าที่หลายๆ คนคิด
หลังจากที่ทาง JobsDB เผยข้อมูลเกี่ยวกับสถิติน่าเป็นห่วงของแรงงานสำหรับสายงาน Digital Marketing ที่ตอนนี้เรียกว่า “ขาดตลาด” อย่างหนัก และกลายเป็นโอกาสของคนที่มีทักษะและความสามารถด้านนี้จนหลายๆ คนอาจจะบ่นว่าคนทำงานด้านนี้เปลี่ยนงานและขึ้นเงินเดือนกันพรวดๆ อย่างน่าตกใจ (แต่ก็คงไม่แปลกอะไรในสภาวะที่อุปสงค์มากกว่าอุปทาน)
ปัญหาที่หลายๆ คนมักจะคิด (และเจอ) ตอนนี้คือการหาพนักงานที่มีทักษะด้าน Digital Marketing เข้ามาในบริษัทซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยเพราะเราก็ดันไม่มีบรรจุทักษะเหล่านี้ในระดับอุดมศึกษา กลายเป็นว่าคนที่จะทำพวกนี้เป็นล้วนเป็นการฝึกฝนด้วยตัวเอง และเมื่อรับเข้าทำงานแล้ว ก็ต้องเจอโจทย์ที่ยากกว่าคือการรักษาคนเหล่านี้ไว้ จนเรียกได้ว่าการรักษา Digital Talent ไว้ในองค์กรนั้นกลายเป็นภารกิจและโจทย์สุดหินของแผนก HR เลยก็ว่าได้
แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่ผมไม่แน่ใจว่าหลายๆ คนจะรู้ตัวกันไหมคือนี่เป็นสัญญาณที่น่ากลัวมากสำหรับแรงงานในสายงานการตลาดและบริหารธุรกิจในอนาคต และนั่นไปไกลกว่ารื่องการทำ Digital Marketing นัก
ที่ผมพูดแบบนี้ เพราะถ้าเราลองตั้งคำถามกลับว่านักการตลาดในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้านั้นต้องมีทักษะอะไรบ้าง ต้องรู้อะไรบ้าง เราจะพบว่าทักษะเรื่อง Digital Marketing จะกลายเป็นหนึ่งในคุณสมบัติ “ต้องมี” ของนักการตลาด เพราะไม่ช้าก็เร็ว ผู้บริโภคจะปรับพฤติกรรมเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ (ก็อย่างที่ทุกวันนี้คนจำนวนมากไม่ได้ดูทีวี และหันไปใช้เวลากับ Facebook LINE และ YouTube นั่นแหละฮะ) ซึ่งนั่นทำให้วิธีการทำการตลาดในวันนี้รวมถึงอนาคตจะอยู่กับรูปแบบที่เราไม่เคยได้ทำกันมาก่อน และเผลอๆ สิ่งที่หลายคนเรียนและยึดถือมาหลายปีก็จะใช้ไม่ได้
นั่นเป็นเหตุที่ผมมักจะพูดบ่อยๆ ว่าให้โยนตำราที่คุณเคยใช้ไป ลืม Powerpoint ที่เคยใช้เมื่อปีก่อนๆ แล้วกลับมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ตั้งแต่วันนี้ก่อนที่จะสายไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมพูดบ่อยขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเพราะมันจะไม่ใช่แค่ Digital Marekting แต่มันคือ Digital Transformation ที่โครงสร้างธุรกิจจะเปลี่ยนไปอย่างแรง และทักษะด้านดิจิทัลจะกลายเป็น “ของจำเป็น” ของนักการตลาดและผู้บริหารทุกคน
แล้วเวลาที่เราพูดว่า “ทักษะดิจิทัล” นั้นไม่ได้หมายความว่าแค่การลงโฆษณาบนออนไลน์เป็นเท่านั้น (เพราะนั่นใครๆ ก็ทำได้) แต่หมายถึงการรู้จักผู้บริโภคยุคใหม่ รู้วิธีการวางแผนการตลาดเพื่อรับรูปแบบพฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ การสร้างคอนเทนต์ที่มากไปกว่าโฆษณา การรู้จักเครื่องมือ Digital Marketing ที่ใช้ในการทำการตลาด
ผมได้คุยกับนักคิดด้านการตลาดคนหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เขาบอกว่าสิ่งที่นักการตลาดกำลังจะเจอคือภาวะเหมือนกับสมัยก่อนที่นักสื่อสารการตลาดต้องรู้เรื่องทีวี รู้วิธีการทำโฆษณาบนหนังสือพิมพ์ และรู้วิธีทำพีอาร์ เพียงแต่วันนี้ไอ้ที่พูดมาก่อนหน้านี้จะใช้ไม่ได้แล้วเขาจะเจอกับการที่เขาต้องรู้เรื่อง Facebook ต้องรู้วิธีใช้ SEM และรู้วิธีการทำ Content Marketing (ซึ่งไม่ใช่การทำหนังโฆษณาแล้วไปยัดใน YouTube Ad) ซึ่งนั่นไม่ได้เกี่ยวเลยว่าคุณเคยทำงานแบรนด์มากี่ปี ทำหนังโฆษณามากี่เรื่อง ได้คานส์มากี่ตัว
และถ้ามองให้ลึกลงไปอีก นั่นหมายความว่านักการตลาดต้องรู้จัก Digital Customer Journey ที่ซ้ำซ้อนกว่าเดิม รู้จักการแบ่ง Segment ที่วันนี้มีอะไรมากกว่า Demographic รู้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกจากแหล่งข้อมูลมากมาย และรู้ว่าการสร้างแบรนด์ให้กับคนวันนี้นั้นต่างจากการสร้างแบรนด์ในวันก่อนอย่างไร
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ มันก็หมายความว่าพวกเขาจะกลายเป็นนักการตลาดที่ตลาดไม่ต้องการนั่นแหละ
ความน่ากลัวที่พอผมพูดมาถึงจุดนี้ คือถ้าเรามองกลับไปในตลาดแล้ว เรากลับพบว่านักการตลาด นักโฆษณา ตลอดยันผู้บริหารต่างๆ นั้นมักจะโยนภาระของสิ่งเหล่านี้ให้กับแผนก “การตลาดดิจิทัล” โดยที่ตัวเองไม่ได้เพิ่มทักษะเหล่านี้ และนั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างแรง เพราะก็จะกลายเป็นว่าผู้บริหารไม่ปรับตัว ไม่มีทักษะในการวิเคราะห์ธุรกิจยุคดิจิทัลได้ นักการตลาดเดิมก็ไม่สามารถทำการตลาดได้
สำหรับผม ในอีกไม่นานเราไม่เรียกมันว่าตลาดดิจิทัลอีกต่อไป แต่มันคือ “ตลาด” นั่นแหละ และถ้าใครทำการตลาดกับตลาดนี้ไม่ได้ ก็อยู่ไม่รอด (และเราต้องไม่ลืมว่า Digital Marketing นั้นไม่ใช่ Digital Advertising และ Digital Advertising ก็ไม่ใช่แค่การซื้อ Digital Media)
ทีนี้เราลองกลับมาถามกันดีกว่าว่าในบริษัทหรือองค์กรที่มีอยู่ตอนนี้นั้น มีใครบ้างที่มีทักษะเหล่านี้? แผนกการตลาดของคุณรู้จัก Digital Marketing กันดีแค่ไหน? เข้าใจมันดีแค่ไหน?
ผมพยายามตั้งคำถามให้กับคนที่มาฟังผมบรรยายเสมอว่าแรงงานในอนาคตจะมี “คุณสมบัติ” อย่างไรถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัทและจะรับพนักงานเข้ามาทำงาน ซึ่งเราไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าแรงงานจำนวนมากในวันนี้ไม่เข้าข่ายนั้น
เอาล่ะครับ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผมก็ได้วางระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้คุณล่ะ ระเบิดลูกนี้รอวันที่จะระเบิดในไม่ช้านี้
ก็อยู่ที่คุณล่ะครับ ว่าจะปลดชนวนนี้ทันไหมนะครับ :)
Comments