ลองมองหางานที่ทำให้คุณได้ใช้ความสามารถแบบ 100%
ผมมักพูดเสมอๆ ว่าสำหรับหลายคนนั้น เงินอาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจทำงาน ทั้งนี้เพราะสิ่งที่หลายๆ คนให้ความสำคัญนั้นไม่ใช่ค่าตอบแทนแต่เป็นเรื่องการพัฒนาความสามารถของตัวเองเพื่อความก้าวหน้าในอนาคตต่างหาก
เรื่องนี้อาจจะฟังดูโลกสวยอยู่บ้าง แต่จากประสบการณ์การพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือคนที่รู้จักหลายคนแล้วนั้นก็พบว่าในหลายกรณีที่พวกเขาไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญกับเงินเดือนหรือสวัสดิการ ณ ปัจจุบันเสียเท่าไรเพราะพวกเขารู้ว่านี่เป็นแค่ “ทางผ่าน” ไปสู่เป้าหมายในอนาคตมากกว่า
การมองเรื่องอนาคตและความก้าวหน้านี้เองที่ทำให้พนักงานหลายคนเลือกจะเปลี่ยนงานเมื่อพบว่าตัวเองไม่สามารถ “เติบโต” ทางความสามารถหรือโอกาสในการทำงานได้ เช่นเดียวกับที่พนักงานหลายคนเลือกจะรับงานที่เงินเดือนน้อยกว่า หรือต้องทรหดมากกว่าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถตัวเองไปแทนที่จะเลือกงานสบายๆ ประเภทไม่ต้องใช้ความคิดอะไรเยอะนัก
พอพูดถึงประเด็นนี้ก็ทำให้ผมนึกถึงฉากหนึ่งในละคร IRYU: Team Medical Dragon ภาค 4 ที่พระเอกชวนเพื่อนพระเอกอีกคนที่เป็นวิสัญญีแพทย์อัจฉริยะมาร่วมงานกับตัวเองที่โรงพยาบาลท้องถิ่นเล็กๆ และนั่นทำให้เพื่อนของเขาต้องเสียรายได้มหาศาล เสียความสะดวกสบาย
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจก็คือการบอกว่างานที่กำลังรอเขาอยู่นั้นจะทำให้เขาได้ใช้ศักยภาพของเขาเอง 100%
จากประสบการณ์ส่วนตัวนั้น ผมเองก็มีความคิดเข้าข่ายแบบเดียวกันอยู่พอสมควร แม้ความจริงเราอาจจะต้องยอมรับว่าผลประโยชน์หรือรายได้ตอบแทนนั้นก็ควรจะ “เหมาะสม” และไม่ทำให้เราลำบาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่ามากเกินไปแต่ตัวเราไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรเลย ทำงานไปแบบวันๆ โดยที่ไม่สามารถเค้นความสามารถตัวเองออกมาและทำให้เก่งขึ้นไปกว่าเดิม
ที่สำคัญคือถ้าเรามีทัศนคติที่จะไปสู่ความสำเร็จแล้วนั้น สิ่งที่จำเป็นมากคือการฝึกฝนและเพิ่มพูนศักยภาพตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งนั่นล้วนเป็นสิ่งที่ผมมักเจอกับคนที่เลือกแบบเดียวกับสถานกาณ์ข้างต้น มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการความมั่นคง แต่เพราะความมั่นคงระยะสั้นนั้นไม่ได้น่าดึงดูดมากพอกับที่พวกเขาจะสามารถสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองในระยะยาวได้
พอเป็นแบบนี้แล้ว มันเลยเป็นเรื่องไม่ง่ายนักสำหรับเหล่าผู้บริหารหรือองค์กรที่จะต้องดูให้ออกว่าพนักงานของตัวเองอยู่ในโหมดไหน ถ้าพวกเขาอยู่ในภาวะที่กระหายการพัฒนาตัวเอง องค์กรเองก็ต้องสนับสนุนให้เกิดขึ้นตาม เพราะเมื่อไรที่ความท้าทายหมดไป พนักงานเหล่านี้ก็พร้อมจะเดินจากไป หรือไม่ก็ลดบทบาทตัวเองจนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงไปเช่นกัน
ในอีกทางหนึ่ง คนทำงานเองก็ต้องคิดเรื่องนี้ไว้ด้วย เพราะว่าหากเราทำงานสบายมากเกินไป ก็เท่ากับเราเสียโอกาสที่จะก้าวหน้าหรือทำให้ตัวเองไปอีกขั้นของความสามารถได้ ซึ่งนั่นก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเป็นแน่
เพราะลองคิดๆ ดูว่าถ้าเราอายุมากไปเรื่อยๆ แต่เรากลับจมอยู่กับที่ ไม่มีความสามารถที่เพิ่มขึ้นแล้ว วันหนึ่งเราก็คงเจอเด็กรุ่นใหม่หรือพนักงานคนใหม่เข้ามาแทนที่ได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น การไปหาที่ใหม่ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยเช่นกัน
Comments