วิธีทำลายคนทำงาน : ให้พวกเขาทำงานด้วยความกลัว
เชื่อว่าทุกคนล้วนเจอประสบการณ์ของการเจอเจ้านายหรือลูกค้าประเภท “มหาภัย” หรือที่เรามักเรียกกว่า Hell Boos / Client กัน และหนึ่งในพฤติกรรมที่หลายๆ คนระอา เหนื่อยหน่าย และขยะแขยง คือการที่เขาเหล่านั้นใช้คำพูดแบบที่ “ทำร้ายจิตใจ” คนที่ทำงานด้วยอยู่เสมอๆ
ทำไมหลายๆ คนถึงมีพฤติกรรมอย่างนั้น?
ถ้าเราวิเคราะห์กันแล้ว บางทีพวกเขาอาจจะมีปมในจิตใจตอนเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยวิธีแบบเดียวกัน หรือไม่ก็มีพฤติกรรมก้าวร้าวเป็นทุนเดิมมาแต่ไหนแต่ไรก็เป็นได้ ขณะเดียวกัน มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะคิดว่าวิธีในการควบคุมคนหลให้ทำตามที่เขาต้องการได้ดีที่สุดนั้น คือการใช้กำลังเข้าข่มและสร้าง “ความกลัว” ให้กับอีกฝ่าย
ซึ่งจะว่าไปแล้ว วิธีการสร้างความกลัวนี้ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงบ้านป่าเมืองเถื่อนหรือกลุ่มที่ใช้การตัดสินด้วยกำลังแทนที่จะด้วยเหตุผล วิธีแบบนี้มักได้ผลเพราะทำให้อีกฝ่ายต้องจำทนทำงานให้และไม่กล้าที่จะขัดคำสั่ง
แต่นั่นจะเป็นสิ่งที่เกิดได้ตลอดไปจริงๆ หรือ?
ในประสบการณ์ของผม ผมก็เคยเจอคนประเภทข้างต้นที่มีพฤติกรรมรุนแรงสุดขั้ว ซึ่งดูเหมือนว่าวิธีการของเขาคือการกดดันโดยใช้ฐานะการเป็นคนที่เหนือกว่าเพื่อให้ผมสำนึกอยู่ตลอดว่าอยู่ใต้เขา
แล้ววันนึงผมก็เดินออกมาแบบไม่สนใจอะไรเขา โดยมีเขายืนด่าตามหลังแต่ผมก็ไม่ได้หันกลับไปแต่อย่างใด
บางทีวิธีการใช้ความรุนแรงหรือใช้อำนาจข่มคนอีกฝั่งหนึ่งนั้นอาจจะเหมาะสม ถ้าหากว่าคนที่เราคุมเป็นคนประเภทบ้านป่าเมืองเถื่อนชนิดไร้ความคิดและวุฒิภาวะโดยใช้มันสร้าง “ความกลัว” และ “ความซื่อสัตย์” แต่นั่นมันคนละเรื่องกับการทำงานร่วมกับคนที่เป็นมันสมองหรือคนที่ทำงานด้วยความทุ่มเทและตั้งใจ เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ทำร้ายและบั่นทอน “ความจริงใจ” เช่นเดียวกับ “ความซื่อสัตย์” นั่นเอง ทั้งนี้เพราะคนเหล่านี้อาจจะลืมคิดไปว่าคนดีหรือคนที่ความคิดดีๆ นั้น เขาก็ไม่คิดจะทนกับพฤติกรรมแบบนี้สักเท่าไร
แถมยิ่งทำพฤติกรรมแบบนี้จะมีแต่ทำให้คนที่ทำงานด้วยรู้สึกขยะแขยงมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ความรู้สึกอยากช่วยงาน อยากทำงาน ของคนที่ตั้งใจทำงานก็มีแต่ถูกบั่นทอนด้วยการใช้อำนาจและสร้างความกลัวเพื่อกดดัน ความคิดสร้างสรรค์ของคนที่มีความสามารถก็ยากจะเกิดเพราะไม่ได้รู้สึกอยากจะทำงานให้เต็มที่เลยแม้แต่น้อย และเราต้องไม่ลืมว่าคนที่มีความสามารถนั้นมักทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อพวกเขามีความสุขและรู้สึกร่วมไปกับการทำงาน แทนที่จะถูกกดดันและบีบคั้น
ในวันที่ผมได้ขึ้นเป็นหัวหน้าคน ผมได้ปรึกษากับพี่ชายที่ผมเคารพรักว่าควรทำอย่างไร ควรจะศึกษาตำราเล่มไหนบ้าง เขาตอบผมกลับมาสั้นๆ ว่า “ใช้ธรรมะปกครองคน” ซึ่งเป็นคำที่ผมจำและปฏิบัติมาจนวันนี้ และผมก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องและได้ประสิทธิภาพที่สุด
การใช้วิธีสร้างความกลัว อาจจะเป็นการสร้างกดดันและให้ผลในระยะสั้น แต่การปกครองโดยให้ผู้ถูกปกครองเต็มไปด้วยความกลัวนั้นก็มีแต่รอวันเกิดปฏิวัติหรือการล้มครืนยามพลาดพลั้ง วันที่ผู้มีอำนาจพลาดเมื่อไรก็มีแต่คนหัวเราะเยาะและรอซ้ำเติม ผิดกับการที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจทำงานกัน พอใครพลาดก็พร้อมจะมีคนยื่นมือมาช่วยเหลือ
ท้ายที่สุดแล้ว การทำงานโดยใช้อำนาจ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจโดยตำแหน่งหรืออำนาจเงิน ก็มีแต่ดึงคนที่อยู่ใต้วัฏจักรแบบเดียวกันมาทำงานด้วย เพราะคนที่ทำงานด้วยธรรมก็คงไม่อยากจะทำงานในวัฏจักรแบบนี้ ถ้าองค์กรเก็บคนแบบนี้ไว้ ไม่ช้าวัฒนธรรมองค์กรก็จะเข้าสู่ระบบบ้าอำนาจแบบเดียวกับตัวบุคคลและก็ไม่มีคนดีๆ สามารถอยู่ในองค์กรได้ ส่วนถ้าลูกค้าทำตัวบ้าอำนาจด้วยแล้ว ไม่ช้าคนดีๆ มีฝีมือก็ไม่คิดจะทำงานให้ และก็จะไม่เหลือคนดีๆ ให้ทำงานด้วยได้
อ่านถึงตรงนี้ ถ้าใครรู้ตัวว่าเป็นแบบข้างต้นก็คิดดีๆ ก่อนที่คุณจะไม่เหลือใครก็แล้วกัน
Comments