หนึ่งสิ่งง่ายๆ ที่สามารถทำให้คุณโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่น
เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่อยากให้ตัวเองมีความโดดเด่นขึ้นมาจากเดิม เพราะนั่นจะมีส่วนสำคัญในเรื่องการสร้างโอกาสก้าวหน้า บ้างก็ทำให้ตัวคุณสามารถเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้างได้ ทำให้คนอื่นๆ เชื่อมั่นและรับฟังคุณมากขึ้น ฯลฯ และที่หลายๆ คนมักครุ่นคิดคือทำอย่างไรจะให้เป็นแบบนั้น
แต่ที่หลายๆ คนมักจะคิดกันต่อคือการจะสร้างความโดดเด่นนั้นค่อนข้างจะไม่ใช่เรื่องง่าย แถมเผลอๆ อาจจะต้องใช้ทักษะมากมาย บ้างก็ต้องไปเทคคอร์สเรียนกันเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากมายอีก
ฟังดูเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย
แต่อันที่จริงแล้ว สำหรับนักคิดหลายๆ คน (รวมทั้งผมเอง) อาจจะไม่ใช่เรื่องยากขนาดนั้น อย่างในบล็อกของ Gary Wu เองก็ให้ความเห็นน่าคิดว่าจริงๆ เราสามารถเปลี่ยนตัวเองให้โดดเด่นได้ด้วยวิธีการง่ายๆ
นั่นคือการเริ่มต้นอ่านหนังสือครับ
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะแบบ เฮ้ย เอาแบบนี้กันเลยหรือ? แต่เชื่อผมเถอะว่าจริงๆ มันก็ง่ายแบบนั้นแหละ เพราะเอาแค่ชีวิตผมเองนั้น ผมก็ก้าวมาถึงวันนี้ได้ส่วนหนึ่งก็เพราะการอ่านหนังสือด้วย
และการอ่านหนังสือที่ว่านี้ใช่ว่าจำเป็นต้องเป็นหนังสือราคาแพงๆ หรือหนังสือดังๆ หรอกนะครับ เพราะแม้แต่หนังสือทั่วๆ ไปก็สามารถทำให้คุณโดดเด่นได้เหมือนกันถ้าคุณมองเห็นโอกาสและเลือกจะเรียนรู้จากมัน
ถ้าเราจะมองประโยชน์ของการอ่านหนังสือนั้น คงมีมากมาย เรามาลองวิเคราะห์แค่พื้นฐานง่ายๆ ว่าคุณจะเห็นอะไรจากกอ่านหนังสือบ้างในแง่ของการพัฒนาตัวเอง
1. คุณได้ขยายขอบเขตความรู้ของคุณออกไป
ผมมักพูดเสมอๆ ว่าเวลาที่เราอ่านหนังสือแขนงใหม่ๆ นั้น สิ่งที่จะตามมาคือการทำให้เราได้เห็นว่ามีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่รู้ และยิ่งคุณได้ขยายขอบเขตความรู้ของคุณมากเท่าไร คุณก็จะสามารถสร้างความแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่อยู่สายงานเดียวกับคุณ และในหลายๆ โอกาสนั้น คุณก็อาจจะได้ใช้ข้อมูลเหล่านั้นเช่นในการประชุม การแสดงความคิดเห็น หรือแม้แต่การเข้าสังคมในงานต่างๆ ด้วย (ซึ่งมันคงดูดีทีเดียวถ้าคุณสามารถมีเรื่องมากมายไปเล่าแทนที่จะเป็นเรื่องงานที่บางคนอาจจะมองว่าน่าเบื่อๆ แถมเป็นเรื่องเดิมๆ)
2. คุณได้เรียนรู้วิธีการเล่าเรื่องใหม่ๆ
การอ่านหนังสือก็เหมือนกับการฟังเรื่องเล่าจากคนเขียน และวิธีการเล่าเรื่องนี้แหละที่เป็นเสน่ห์สำคัญของการสื่อสารที่คุณสามารถนำไปเรียนรู้และดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับตัวคุณได้ ซึ่งวิธีการเล่าเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นรูปแบบพรีเซนต์งานของคุณ การพูดในที่สาธารณะ การเขียนงาน ฯลฯ ซึ่งยิ่งคุณรู้รูปแบบการเล่าเรื่องมากแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้คุณสามารถดัดแปลงและเลือกใช้ได้หลากหลายมากขึ้นเท่านั้น
3. คุณได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ
นอกจากการเล่าเรื่องแล้ว สิ่งที่คนอ่านหนังสือมักจะได้ติดตัวมาโดยไม่รู้ตัวคือการใช้ศัพท์ต่างๆ ที่เราอ่านหนังสือ ทั้งนี้เราจะเห็นว่าหลายๆ คำนั้นอาจจะไม่ใช่คำที่เรารู้จักหรือคุ้นเคย แต่พออ่านหนังสือไปเรื่อยๆ แล้วจะเกิดการจดจำ การคุ้นชิน และสุดท้ายก็กลายเป็นคำศัพท์ติดตัวเราไปอย่างรวดเร็ว มันก็เหมือนกับที่เราสังเกตว่าคนที่อ่านหนังสือเยอะๆ จะมีคำศัพท์ใหม่ๆ หรือมีการเรียกสิ่งต่างๆ ที่ต่างไปจากคนทั่วไป ซึ่งนั่นก็กลายเป็นเสน่ห์ของพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
3 เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ผมเห็นจากการอ่านหนังสือโดยยังไม่ได้พูดเรื่องเฉพาะทางหรือความรู้ที่ซับซ้อนเลยแต่อย่างใด ฉะนั้นแล้ว เชื่อผมเถอะครับว่าถ้าอยากจะเก่ง อยากจะให้ตัวเองพัฒนาขึ้นไปอีก เรื่องพื้นฐานที่คุณควรจะทำให้ได้คือการอ่านหนังสือให้มากขึ้นไปกว่าเดิม (หรือถ้าใครยังไม่อ่านก็เริ่มอ่านซะนั่นแหละครับ)
ปล. ถ้าไม่รู้ว่าจะอ่านหนังสืออะไรดี ลองดูในอีกบล็อกของผมอย่าง rebook.in.th ได้ครับ
Comments