อุปสรรคสู่ความสำเร็จ: ความสำเร็จ
อ่านชื่อหัวข้อแล้วอาจจะงงๆ ว่าผมเล่นตลกอะไรหรือเปล่า แต่จริงๆ ก็ผมหมายความตามนั้นนั่นแหละครับ เพราะแม้แต่สิ่งที่ดูดีก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ทำายโอกาสและอนาคตของเราอยู่เหมือนกัน
ที่พูดอย่างนี้นั้น เพราะหลายๆ ครั้งในชีวิตที่เรารู้สึกว่าการบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ หรือการที่ได้ก้าวหน้าไปสู่อีกขั้นหนึ่งของชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่เพียงพอแล้ว รู้สึกดีใจแล้ว
สิ่งที่ตามมาคือการที่พอต้องรู้สึกว่า “ต้องทำต่อ” ก็จะกลายเป็นว่า “ไว้ก่อน” “พักก่อนไหม” “จะเหนื่อยอีกทำไม”
เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะทุกความสำเร็จนั้นมักนำพาเราให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ได้อะไรที่ดีกว่าเดิมไม่มากก็น้อย ทั้งเรื่องความรู้สึกและชีวิตประจำวันด้วย (เช่นมีชื่อเสียงมากขึ้น ฐานะทางการเงินดีขึ้น ฯลฯ)
แน่นอนว่า “ความสำเร็จ” ที่เกิดขึ้นย่อมหอมหวลและน่าอิ่มเอิบอยู่เสมอ
และพอเป็นแบบนั้น พอต้องกลับมาคิดว่า ต้องเหนื่อยต่อนะ ต้องพยายามอีกนะ ต้องฝึกอีกนะ มันก็จะเกิดความรู้สึกประเภท “อีกแล้วเหรอ”
สถานการณ์แบบนี้มันก็คล้ายๆ กับการฝึกยิงธนูให้เข้าเป้า แน่นอนว่าแรกๆ เรายิงไม่เป็น กว่าจะยิงเป็นก็เหนื่อย ต้องซ้อมยิงอีกหลายต่อหลายครั้งจนเหนื่อยเพื่อจะยิงเป้าให้เข้า
และพอยิงเข้าแล้ว เราก็ดีใจ รู้สึกสำเร็จแล้ว
คำถามคือเราจะยังฝึกมันต่อไปหรือเปล่า เราจะยังอยากยิงธนูต่อไปหรือเปล่า
หรือเราคิดว่าการยิงเข้าเป้านั้นเพียงพอแล้วกับชีวิตเราตอนนี้
ในชีวิตจริงของเรามันก็คล้ายๆ อย่างนั้นแหละฮะ คนจำนวนมากยิงเข้าเป้าแล้วก็บอกว่าพอล่ะ ขอใช้ชีวิตปรกติกับคนอื่นบ้าง ขอเวลาสนุกบ้าง
แต่ที่หลายคนลืมคิดว่าเกมชีวิตเรานั้นไม่ใช่แค่การแข่งขันกับตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่คนอื่นๆ ก็กำลังแข่งด้วยเหมือนกัน และเผลอแป๊ปเดียว เราอาจจะโดนคนอื่นแซงในช่วงที่เรา “พัก” ไปก็ได้
นั่นยังไม่รวมถึงโอกาสหรือความสำเร็จอื่นๆ ที่อยู่ถัดไป รอให้เราไปคว้า เพียงแต่เรายังไม่เห็นและยังสนุกกับความสุขที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น
ตัวผมเอง ก็มีความคิดประเภทอยากพักแล้ว เหนื่อยแล้ว ไว้พรุ่งนี้แล้วกันอยู่บ่อยๆ บางทีเหนื่อยมากๆ แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าขอขี้เกียจสักวันได้ไหม ทำเว็บมาถึงขนาดนี้แล้ว เขียนบล็อกมาขนาดนี้แล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า
ฟังๆ ดูก็คงไม่มีอะไร แต่สิ่งที่น่ากลัวคือพอมันสะสมๆ ไปเรื่อยๆ นั้น ไม่ช้ามันก็จะกลายเป็นว่าเราหยุดยาวนานไป และไม่สามารถวิ่งต่อได้แบบสมัยก่อน
นั่นเลยเป็นเหตุผลที่หลายๆ ครั้งผมต้องฝืนตัวเองขึ้นมาเขียนบล็อกต่อ เข็นตัวเองให้อ่านหนังสือต่อ (แม้ว่าทุกวันนี้หลายๆ คนก็จะบอกว่าผมทำมาเยอะมากแค่ไหนแล้วก็ตาม)
เพราะถ้าเมื่อไรที่ผมหยุด ความสำเร็จหรือเส้นทางของผมก็จะหยุดลงทันทีเหมือนกัน
Коментарі