เก็บตก 10 ข้อคิดของนักการตลาดจาก The Facebook Conference ที่ Amsterdam
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการจัดงาน The Facebook Conference ที่กรุง Amsterdam โดยรวบรวมนักการตลาดดิจิทัลของประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อแลกเปลี่ยนและอัพเดทมุมมองการตลาดดิจิทัลปัจจุบันต่อ Facebook ซึ่งเป็น Social Media ยอดนิยม ณ ขณะนี้ โดยในงานก็มีการพูดคุยหลายหัวข้อที่น่าสนใจ และทาง Viralblog.com ก็ได้สรุปประเด็นสำคัญๆ น่าสนใจมาเป็น 10 หัวข้อสำคัญ ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
1. 5% ของโพสต์บน Facebook ในปัจจุบันคือโฆษณา
ถือเป็นตัวเลขที่หลายคนอาจจะไม่ได้ทันสังเกต แต่ก็มีการประมาณการว่า ทุกๆ 20 โพสต์บน Newsfeed นั้น จะมีอย่างน้อย 1 โพสต์ที่มีเนื้อหาโฆษณาสินค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้น่าแปลกใจอะไร เพราะทุกวันนี้เม็ดเงินโฆษณาจำนวนมากถูกเพิ่มให้กับการทำคอนเทนต์และการซื้อสื่อบน Facebook ซึ่งถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่คนใช้เวลาออนไลน์ส่วนใหญ่อยู่กับมัน
2. อย่าสนใจแค่ CPA แต่ต้องมอง Life Time Value ด้วย
ถ้าเรามองเรื่องโฆษณาแบบ Digital Display นั้น ตัวเลขที่คนมักจะมองกันก็คือ CPA (Cost per Action) เสียส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ในงาน The Facebook Conference ได้ยกประเด็นนี้มาพูดว่าน่าจะให้ความสำคัญกับ Life Time Value (LTV) ด้วย ซึ่งค่า LTV นี้คือการประเมิณมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในระยะยาวอันเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายด้วย ตัวอย่างง่ายๆ คือการคิดว่าต้นทุนในการเข้าถึง Fan คือประมาณ $2 ต่อการสร้าง Fan 1 คน แต่ 1 คนดังกล่าวนั้นมีมูลค่าได้ถึง $173 เหรียญ
3. Facebook คือ Advertising Platform
ถือเป็นแนวคิดที่ดูสุดโต่งอยู่ไม่น้อย แต่คนที่เสนอแนวคิดนี้คือ Heineken ซึ่งมีการสื่อสารในรูปแบบของ Advertisning อย่างต่อเนื่องบนช่องทางของตัวเองโดยแบรนด์มองว่า Facebook นั้นคือสื่อโฆษณาของตัวเอง และมองว่ากลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาเป็น Fan ของแบรนด์ตัวเองนั้นคือกลุ่มคนที่ต้องการรับข่าวสารในแบบโฆษณาจากแบรนด์นั่นเอง สิ่งที่ตามมาคือการตั้งเป้าหมายของ Facebook Page อยู่ที่ Awareness เท่านั้น โดยไม่ได้มองไปถึงขั้นการสร้างยอดขายแต่อย่างใด
แนวคิดนี้อาจจะดูแปลกๆ เสียหน่อยสำหรับบางแบรนด์ที่มีการตั้งเป้าหมายของการใช้ Social Media ในแนวทางอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ก็ใช่จะบอกว่ามันถูกต้อง 100% เสียทีเดียว เพราะวิธีการดีไซน์ Social Media Strategy นั้นคงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตลอดจนแนวทางการตลาดของแต่ละแบรนด์ด้วย
4. Facebook คือพื้นที่ที่ทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นคน
เราพูดเรื่องการสื่อสารของแบรนด์บนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้งว่าควรทำให้เป็น “คน” มากกว่าจะเป็นแค่แบรนด์ลอยๆ เฉยๆ ทั้งนี้เพราะ Social Media เป็นการเชื่อมต่อระหว่างคนกับคนเป็นหลัก Phillips ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้โดยมองว่า Facebook คือแพลตฟอร์มที่ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารในรูปแบบที่เป็นคนมากกว่าจะเป็นการสื่อสารแบบโฆษณาทั่วๆ ไป (ซึ่งนี่ออกจะต่างกันกับแนวคิดของ Heineken พอสมควร ^^”) นอกจากนี้แบรนด์ยังมีโอกาสในการที่จะโต้ตอบและปฏิิสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้อีกด้วย
5. แบรนด์ต้องให้ Facebook คืนกลับเป็นของผู้บริโภค
KLM (Royal Dutch Airline) ให้ความเห็นว่า Facebook คือพื้นที่ที่มีไว้สำหรับปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้คนอื่นๆ โดยทาง KLM ก็ใช้ Facebook ในการเข้าไปพูดคุยกับผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้าในที่ที่เข้าอยู่ นอกจากนี้แล้ว KLM ยังวางหน้าที่การดูแล Facebook ไว้ในส่วนงานระหว่าง PR และ Corporate Communication ซึ่งต่างจากองค์กรอื่นๆ ที่มักมอบหมายให้กับฝ่ายการตลาดเสียส่วนใหญ่
6. Content is ‘still’ King
คอนเทนต์ยังคงเป็นแกนกลางหลักที่สำคัญมากของการสื่อสารบน Facebook (หรือจริงๆ คือทุกช่องทางการสื่อสารนั่นแหละ) เราจะเห็นคอนเทนต์ที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคมากขึ้นทั้งในแง่การสร้าง Value หรือการใส่ Creative ลงในคอนเทนต์ ทั้งนี้ยังมีการพูดถึงประเด็นมูลค่าของคอนเทนต์นั้นสำคัญเสียกว่าการวัดที่จำนวน Like Commet Share เพียงอย่างเดียว
7. สร้างคอนเทนต์ที่เป็นตัวแบรนด์
ต่อยอดจากประเด็นเรื่องการให้ความสำคัญของคอนเทนต์ ก็มีการยกประเด็นคอนเทนต์มีเอกลักษณ์ของตัวแบรนด์ตามมา นั่นคือการพยายามสร้างคอนเทนต์ที่มีส่วนผสมที่มี “ความเฉพาะ” เชื่อมโยงกับตัวแบรนด์ ซึ่งนี่จะส่งผลในแง่ประสิทธิภาพของสารต่อผู้รับสาร (คนที่เห็นคอนเทนต์) ต่อไป
8. CEO เริ่มสนใจ Facebook กัน (เสียที)
หลังจากถูกมองว่าเป็นช่องทางกึ่งๆ “แฟชั่น” และมักถูกมองข้ามจากผู้บริหารระดับสูง แต่ในที่สุด Facebook ก็ถูกให้ความสำคัญจากผู้บริหารระดับ C-Level มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงจะมาจากจำนวนผู้ใช้ Facebook ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพฤติกรรมการใช้งานของคนในสังคมที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
9. ใช้ Facebook AD และ TVC พร้อมกันจะได้ผลมากขึ้น 28%
มีการเปิดเผยผลการศึกษาที่พบว่าการทำแคมเปญร่วมโดยใช้โฆษณาทางโทรทัศน์พร้อมกับ Facebook Ad จะสามารถสร้าง Reach ได้เพิ่มขึ้นถึง 28% ด้วยกัน โดยการศึกษาพบว่า Facebook Ad จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงคอนเทนต์ทั้งกลุ่มเป้าหมายเดิมที่อาจจะได้ชม/ร่วมแคมเปญทางโทรทัศน์ไปแล้ว รวมทั้งกลุ่มใหม่ๆ ด้วย
10. อุปกรณ์พกพาจะเป็นสื่อที่มีอานุภาพมากกว่าที่หลายๆ คนคิด
ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Facebook ผ่าน Mobilde Device มากถึง 800 ล้านคนทั่วโลก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือมีแบรนด์จำนวนมากที่ยังไม่ได้ปรับคอนเทนต์หรือกิจกรรมของตัวเองให้รองรับการใช้งานผ่าน Mobile แต่อย่างใด ซึ่งนั่นหมายถึงการสูญเสียโอกาสอย่างมหาศาลเลยทีเดียว
แปล เรียงเรียง และนำรูปภาพจาก: http://www.viralblog.com/
Commenti