เพราะทุกวันนี้ ชัยชนะได้กวาดความซื่อสัตย์ทิ้งไปหมด
เช้าวันนี้ผมเปิด Facebook มาแล้วเจอพี่ที่เคารพคนหนึ่งแชร์เรื่องราวมาใน newsfeed พร้อมพาดหัวดังกล่าวจนทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามันคือเรื่องอะไร (พี่คนนี้มักแชร์เรื่องราวดีๆ ที่คาดไม่ถึงมาให้ผมได้อ่านเสมอๆ)
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการแข่งขันวิ่งข้ามประเทศใน Burlada ซึ่งหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันคือ Iván Fernández Anaya ที่กำลังวิ่งเข้าสู่เส้นชัยเป็นที่สองโดยตามหลัง Abel Mutai จากเคนยาซึ่งได้รับรางวัลเหรีญเงินจากการแข่งวิ่งมาราธอนที่ London Olympics ในขณะที่การแข่งขันกำลังจะจบลงที่เส้นชัย Abel Mutai ซึ่งวิ่งนำมาก็ลดความเร็วลงใน 10 เมตรสุดท้ายด้วยความเข้าใจผิดว่าเขาได้เข้าเส้นชัยไปแล้ว
Fernández ซึึ่งวิ่งตามมาที่สองสามารถตามผู้นำได้อย่างรวดเร็วแถมพร้อมจะแซงขึ้นไปเป็นที่หนึ่งในช่วงไม่กี่ก้าวก่อนถึงเส้นชัยได้
แต่เขาเลือกจะอยู่เป็นที่สอง พร้อมทั้งพยายามอธิบายให้ Abel Mutai วิ่งต่อไปเพื่อเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่ง
Iván Fernández ในวัย 24 ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา
ผมไม่ควรที่จะชนะ ผมได้ทำในสิ่งที่ผมควรจะทำ เขา (Abel) คือผู้ชนะที่ถูกต้องแล้ว เขานำผมชนิดที่ผมไม่มีทางตามเขาทันถ้าเขาไม่เข้าใจผิด เมื่อผมเห็นว่าเขากำลังจะหยุด ก็ผมก็รู้เลยว่าผมต้องไม่แซงเขาขึ้นไป ต่อให้พวกเขาบอกผมว่าการชนะรายการนี้จะทำให้ผมได้ติดทีมชาติสเปน ผมก็ยังคงทำเหมือนเดิม ผมยังคิดเลยว่าผมได้ชื่อมากกว่าที่ผมชนะเสียอีก ซึ่งนั่นสำคัญมากในทุกวันนี้ที่ทุกวงการ ไม่ว่าจะฟุตบอล การเมือง สังคม ฯลฯ เราพบว่าความซื่อสัตย์มันตกต่ำลงทุกที
บางทีชัยชนะในการแข่งขันก็ไม่ใช่ทุกๆ อย่างเสมอไป เรื่องราวของ Fernández อาจจะทำให้เราได้คิดอยู่เสียหน่อยว่าในโลกทุกวันนี้นั้น เราเต็มไปด้วยการแข่งขันที่เต็มไปด้วยคนที่พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงชัยชนะ และหลายๆ ครั้งนั้นทำให้คนเราลดทอนค่าของตัวเองเพียงเพื่อให้ได้รับเกียรติยศหรือรางวัลเท่านั้น
อะไรกันแน่คือสิ่งสำคัญที่เราควรจะต้องมี รางวัลและเกียรติยศที่เอาไว้ประดับบนตู้โชว์ หรือว่าการได้นับถือตัวเอง ส่งต่อคุณค่านี้ให้คนรุ่นต่อไปเพื่อสังคมจะได้น่าอยู่มากกว่านี้
ภาพและข้อมูลจาก
コメント