เรื่องที่นักการตลาดควรรู้จากอัพเดทของ Facebook ในงาน F8
Facebook กลายเป็น Platform ที่ทรงพลังมากในปัจจุบันจนต้องยอมรับว่ามันกลายเป็นสิ่งที่นักการตลาดไม่สามารถมองข้ามได้เด็ดขาด ซึ่งล่าสุดในงาน F8 ซึ่งเป็นงานสัมนาของเหล่าผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ที่ต้องเกี่ยวข้องกับ Facebook นั้น ตัว Facebook นำโดย Mark Zuckerberg ก็ออกมานำเสนอเรื่องราวและอัพเดทใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
แน่นอนว่าอัพเดทจาก Facebook ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Facebook และทิศทางของบริการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นบน Facebook ซึ่งนั่นจะกลายเป็นการสร้างรูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้งาน Facebook ไปโดยปริยาย และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่นักกการตลาดควรจะอัพเดทเรื่องนี้กันเสียหน่อย ซึ่งผมลองแบ่งเป็นประเด็นสำคัญๆ ตามด้านล่างนี้ครับ
1. Messenger จะกลายเป็น Platform สำคัญไม่แพ้ Facebook App
ถ้าพูดในแง่เทคนิคแล้ว สิ่งที่น่าสนใจของ Messenger ในงาน F8 ก็คงเป็นตัว Chat Bot ที่ทำให้เราสามารถพิมพ์โต้ตอบกับสิ่งที่โปรแกรมไว้ ทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับร้านค้าหรือธุรกิจต่างๆ ที่สามารถให้บริการลูกค้าในหลายรูปแบบ เช่นสั่งซื้อสินค้า สอบถามข้อมูล ต้องการความช่วยเหลือ ฯลฯ ผ่าน Bot ได้เลย
ถ้าเรามองแนวโน้มนี้ดีๆ แล้ว เราจะเห็นว่า Facebook กำลังพลักดันให้ตัว Facebook Messenger กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะเป็นมากกว่า Messenging App แบบที่เราเคยใช้งานกัน เพราะก่อนหน้านี้เราก็เห็นข่าวอัพเดทน่าสนใจเช่นการทำให้ Facebook Messenger สามารถซื้อของได้เลย จ่ายเงินได้เลย หรืออย่างที่ KLM ส่ง Boarding Pass ให้ผู้โดยสารผ่าน Messenger ได้แล้ว
สิ่งที่เราไม่สามารถละสายตาได้คือความเคลื่อนไหวของ Facebook ที่จะขยับความสามารถของ Messenger ให้มากกว่าเดิม และกลายเป็นการเติมเต็มการใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลแบบครบลูปภายใน Ecosystem ของ Facebook คนเดียว (น่ากลัวไหมล่ะ)
2. Live Content จะกลายเป็นเรื่องสนุก + สำคัญ
หลังจากที่ Facebook ปล่อยให้คนทั้งโลกสามารถทำการ Live Broadcast กันได้อย่างสนุกสนานแล้ว ในงาน F8 ก็เห็นท่าทีของ Facebook ว่าจะเอาจริงกับ Live มากขึ้นด้วยการปล่อย LIVE API เพื่อให้นักพัฒนาสามารถทำความสามารถ Live ไปใช้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ นอกเหนือจากโทรศัพท์มือถือ (เพราะตอนนี้เราต้องใช้มือถือเป็นอุปกรณ์หลักเพียงอย่างเดียว)
นั่นหมายความว่าการทำ Live Streaming ในอนาคตของ Facebook จะสามารถทำได้หลากหลายกว่าเดิม เช่นการ Live ผ่านโดรน หรือทำสตูดิโอผ่านกล้องอื่นๆ แล้วเชื่อมมาที่โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่ง การ Live ผ่านแอพอื่นๆ ที่ไม่ใช่แอพของ Facebook
ความสนุกต่อจากนี้คือทุกคน (รวมทั้งแบรนด์) สามารถใช้ประโยชน์จาก Live ได้มากขึ้น หลากหลายมากขึ้น ผ่านอุปกรณ์ที่ทันสมัยขึ้นได้ รายการทีวีก็สามารถทำ Live ได้มีคุณภาพมากขึ้น ส่วนแบรนด์ก็สามารถ Live งานอีเวนท์สำคัญๆ ได้เช่นกัน ฯลฯ
3. Facebook ดัน VR จริงจัง
แม้ว่าเทคโนโลยี VR อาจจะอยู่ในช่วง Early Adopter มากๆ เนื่องจากราคาของสินค้าและตัวเลือกในตลาด ประกอบกับคอนเทนต์ต่างๆ ที่อาจจะยังไม่ได้เยอะนัก แต่ที่เราเห็นอย่างชัดเจนมากคือ Facebook จริงจังกับทิศทางของ VR ว่าจะเป็นคอนเทนต์ของอนาคตซึ่งสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม
แม้ว่าวันนี้เราอาจจะยังไม่คุ้นกับ VR มากนัก แต่ถ้าเราจะเน้นการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าในอนาคตอันใกล้ ก็ควรรีบทำการบ้าน ทำความรู้จักและลองใช้กันหน่อยแล้วนะฮะ เพราะยังไงมันก็ “มาแน่ๆ”
Commentaires